Nirvana Asia (1438 HK) เป็นบริษัทมาเลเซีย แต่จดทะเบียนในตลาดฮ่องกง บริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับสุสาน มีประวัติยาวนานกว่า 25 ปี Nirvana Asia มีฐานธุรกิจใหญ่ที่มาเลเซีย ซึ่งปัจจุบันคิดเป็นประมาณ 84% ของรายได้รวม รองลงมาคือสิงคโปร์ที่คิดเป็น 12% ของรายได้รวม และ 4% มาจากอินโดนีเซีย ในปี 2558 บริษัทได้มีการเปิดตัวธุรกิจนี้ในไทยและฮ่องกง และกำลังขยายเข้าประเทศเวียดนาม ส่วนฐานตลาดเดิมทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์และอินโดนีเซียก็กำลังขยายการให้บริการอีกอย่างต่อเนื่อง บริษัทกำลังหาโอกาสลงทุนที่เหมาะสมและคุ้มค่าในการขยายกิจการในประเทศจีน
Death Care กำลังมีความสำคัญมากขึ้นในอนาคตและเป็นตัวต่อยอดจาก Healthcare จากข้อมูลสถิติ ประเทศญี่ปุ่นที่มีสัดส่วนประชากรสูงอายุมากที่สุดในโลก กำลังเผชิญปัญหาการหดตัวลงของจำนวนประชากร เพราะอัตราการเสียชีวิตสูงกว่าอัตราการเกิดประเทศในยุโรปก็มีสัดส่วนของผู้สูงอายุในระดับสูงเช่นกัน ในปีที่ผ่านมาประเทศสเปนมีอัตราการเสียชีวิตของประชากรสูงกว่าอัตราการเกิดแล้ว ประชากรสูงอายุจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ก็บ่งชี้ถึงโอกาสสำหรับตลาด Death Care
Nirvana Asia จับตลาดกลุ่ม Premium ให้บริการครบวงจร ตั้งแต่การดูแลผู้ที่ล่วงลับ การประกอบพิธีกรรมต่างๆ การฌาปนกิจ จนกระทั่งถึงการจัดทำสุสาน ที่ไว้อัฐิ สมัยใหม่ ซึ่งมีการออกแบบอย่างหรูหรา สมฐานะ และบริษัทก็ยังให้บริการกับลูกค้าชาวพุทธ / เต๋า / คริสเตียนอีกด้วย จากข้อมูลของ Nielsen ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้ข้อมูลและประเมินผลระดับโลกพบว่า Nirvana Asia เป็นแบรนด์ที่คนรู้จักมากที่สุดในมาเลเซีย และก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่รู้จักกันดีในสิงคโปร์ เพราะ Nirvana ได้เข้าไปทำธุรกิจมานานพอสมควร
การให้บริการของ Nirvana ที่ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากคือการให้บริการเตรียมพร้อมล่วงหน้า เช่นลูกค้าต้องการเตรียมพร้อมพื้นที่สุสานสำหรับตัวเอง หรือให้ครอบครัวและบรรพบุรุษให้อยู่ที่เดียวกัน ก็สามารถซื้อพื้นที่ และเลือกรูปแบบสุสานล่วงหน้าไว้ก่อนได้ ซึ่งทางบริษัท Nirvana จับกลุ่มเป้าหมายลูกค้าเชื้อสายจีน อายุเกิน 40 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นตลาดที่มีความพร้อมและทำให้บริษัทสามารถเจาะตลาดได้รวดเร็วกว่าคู่แข่ง ในปัจจุบันรายได้ของบริษัทที่มาจากการขายบริการ Death Care ล่วงหน้ามีสัดส่วนถึงประมาณ 80% ของรายได้รวม และที่เหลือเป็นการให้บริการเฉพาะหน้าเมื่อมีผู้ล่วงลับรายใหม่เกิดขึ้น
ในการขายพื้นที่สุสานเพื่อเตรียมความพร้อมล่วงหน้า บริษัทมีให้เลือกการผ่อนชำระยาวนานถึง 48 เดือนแต่บริษัทจะรับรู้เป็นรายได้เมื่อได้รับเงินเข้ามาแล้ว 35% ของค่าบริการ ซึ่งทำให้บริษัทสามารถมีการรับรู้รายได้อย่างมั่นคงและคาดการณ์ได้ บริษัทได้ขายพื้นที่สุสานล่วงหน้าไปแล้วกว่า 30,000 หน่วย ซึ่งในระยะต่อไปก็จะมีรายได้จากการออกแบบและก่อสร้างสุสานเข้ามาอีกในอนาคต ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาการเติบโตของการขายสุสานล่วงหน้าอยู่ที่ 15.2% ในสกุลเงินริงกิตมาเลเซีย แต่ถ้าคิดเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่บริษัทใช้ในการรายงานผลประกอบการ การเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 8.4% ต่อปี Gross Profit Margin อยู่ที่ 75.7% Net profit margin 30.5%
Nirvana Asia ได้เริ่มเปิดให้บริการในไทยเมื่อปี 2558 ในชื่อของ Nirvana Memorial Park บ้านบึง ชลบุรี ซึ่งมีพื้นที่กว่า 200 ไร่ มีการออกแบบที่สวยงาม ถูกหลักฮวงจุ้ย ที่จอดรถกว้างขวาง มีห้องรับรองที่หรูหรา ซึ่งทาง Nirvana Asia ได้ใช้กลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในหลายประเทศ เข้ามาเจาะตลาดในไทย
ผลประกอบการปี 2558 กำไรสุทธิในสกุลเงินริงกิตขยายตัว 17% ซึ่งไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่ถ้าเป็นกำไรในสกุลดอลลาร์สหรัฐ จะลดลง 1.7% สำหรับในปี 2559 ดีบีเอสคาดว่าการเติบโตของสัญญาขายสุสานจะยังคงไปได้ดี ซึ่งผลักดันโดยตลาดสิงคโปร์และมาเลเซีย
ดีบีเอสแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย HK$2.85
ความเสี่ยง–บริษัทบันทึกบัญชีเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ แต่รายได้ถึงประมาณ 84% มาจากมาเลเซีย ดังนั้นทิศทางของค่าเงินริงกิตเทียบกับดอลลาร์สหรัฐจึงมีผลต่อผลประกอบการอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดีการขยายธุรกิจออกไปในต่างประเทศก็จะทำให้ความเสี่ยงจากค่าเงินริงกิตค่อยๆลดลง แนะนำให้นักลงทุนศึกษาบทวิเคราะห์ฉบับเต็มของดีบีเอส วิคเคอร์ส ก่อนตัดสินใจลงทุน
จากคอลัมน์ INVESTMENT - INVEST IN ASIA ของนิตยสาร Money & Wealth ฉบับที่ 158 เดือนมิถุนายน 2559